ย้าย!

***ย้ายแล้วจ้าาา***

ประกาศไว้สั้นๆ ตรงนี้ว่า ผมย้ายบล็อกจาก wordpress.com มา

โฮสเองไว้ที่ blog.tae.in.th แล้วนะครับ

เข้าไปแล้วก็จะเจอโพสใหม่เลย อิอิ

สวัสดีชาวสลอธ [รีวิว Sloth Machine by iannnnn]

ตอนแรกที่หนังสือเล่มนี้ออกมา ผมก็ไม่ได้กะจะซื้อหรอกนะ แต่พอเห็นโฆษณาใน YouTube อันนี้เท่านั้นแหละครับ…

(ตอน Search หาวิดีโอนี้นี่เจอแต่ Slot Machine ที่เป็นวงดนตรีที่อ่ายเซย์กู๊ดบ๋าย)

ผมนี่ซื้อเลย!

ว่าแล้วเมื่องานหนังสือที่ผ่านมา ผมก็ได้เสียเงินให้หนังสือเล่มนี้เป็นที่เรียบร้อย พร้อมกับอีกเล่มของพี่วิชัย ซื้อมาแล้วก็ได้นั่งอ่านอยู่ในงานหนังสือไปบทสองบท แล้วก็ไม่ได้อ่านอีกเลย จนมาวันนี้ก็ตะลุยจบเล่มไปซะงั้น

ลิขสิทธิ์ 101

ไม่มีไรมาก… พรุ่งนี้วันนี้ผมมีสอบมิดเทอมวิชานี้…

ไหนๆ ก็จะสอบ เลยมาเขียนไว้เพื่อทวน แล้วจริงๆ ผมอยากจะเขียนเรื่องนี้อยู่แล้วด้วย เพราะเป็นเรื่องที่มีปัญหาบ่อยมากในไทย จนเราได้เห็นข่าวว่าบ้านเราแย่มากในเรื่องลิขสิทธิ์กันบ่อยๆ โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ ที่เราก็คงเจอปัญหา ก็อปคำคม ก็อปรูปไปใช้ จนดราม่ากันอยู่เป็นประจำ

พอมีปัญหาอย่างนี้เยอะๆ ก็เลยว่าจะเอามาแชร์กันครับ หวังว่าน่าจะมีประโยชน์กับทุกคน ทั้งใครที่ทำงานฝีมือหรืองาน creative ไม่ว่าคุณจะเป็นอาร์ตติส โปรแกรมเมอร์ ดีไซเนอร์ สถาปนิก นักเขียน ฯลฯ ก็ควรรู้ไว้ หรือถ้าคุณไม่ได้ทำงานพวกนี้โดยตรง ก็ควรรู้เหมือนกันจะได้ไม่ไปละเมิดเขาครับ

**บทความนี้อ้างอิงจาก พรบ. ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 ของไทย (ฉบับที่ใช้อยู่ปัจจุบัน)
บทความนี้เน้นสรุปไอเดียหลักๆ ของกฎหมายฉบับนี้เพื่อให้เก็ตกันคร่าวๆ ถ้าอยากรู้รายละเอียดแนะนำให้อ่านตัว พรบ. ที่มีลิงก์อยู่ข้างล่างจะเป๊ะกว่าครับ

สรุปว่า Alan Turing เขาทำอะไรยังไง?

**[SPOILERS ALERT!] บทความนี้มีหลายส่วนที่สปอยล์เนื้อหาจากหนัง The Imitation Game แต่ยังไงมันก็คือเนื้อหาพาร์ทวิชาการ + ประวัติศาสตร์อยู่ดี ถ้าสนใจอยากอ่านก็ลุยต่อได้เลยครับ :D**

ช่วงนี้กระแส The Imitation Game กำลังมานะครับ มาอะไรล่ะ! หนังมันเข้าจนออกจะหมดแล้ว!

อย่างที่เห็นครับ… คือผมกะจะโพสต์เรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อเกือบเดือนก่อน แต่ไม่มีเวลาเขียนให้จบ มีดราฟต์ไว้ แล้วก็ค้างอยู่ที่ 60-70% ไม่ได้โพสต์ซักที ในที่สุดวันนี้ก็ได้โพสต์แล้ววว

คนที่เข้าไปดูหนังแล้วก็อาจจะเห็นแล้วว่า Alan Turing เป็นคนสำคัญในสาย Computer Science (ที่ไทยเรียกว่าวิทยาการคอมพิวเตอร์) แต่อาจจะยังไม่รู้ละเอียดว่าไอ้ที่เขาทำน่ะ มันคืออะไร แล้วเจ๋งยังไง ผมเลยจะหยิบงานดังๆ ของเขา 3 ชิ้นมาลองอธิบายดูครับ

ไป #YWC12 มาครับ (ภาคไขคดี)

เอาล่ะครับ มาต่อเรื่องในวันค่ายกันหลังจากติดค่ายกันเลยเนอะ
สำหรับใครที่อยากอ่านเรื่องช่วงก่อนวันค่าย เข้าไปติดตามกันได้ที่นี่เลยนะครับผม ไป #YWC12 มาครับ (ภาคปริศนา)

ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงมาก ต่อเลยดีกว่า…

ไป #YWC12 มาครับ (ภาคปริศนา)

เนื่องจากว่ามีอะไรให้เล่าค่อนข้างเยอะ โพสต์นี้เลยยาวจนขอแบ่งเป็น 2 ส่วน ติดตามตอนต่อไปได้ที่ ไป #YWC12 มาครับ (ภาคไขคดี) นะครับ

ผมกลับมาจากค่ายเมื่อประมาณสามอาทิตย์ที่แล้ว

(พูดเหมือนไปไกล จริงๆ ที่จัดค่ายห่างจากบ้านแค่ยี่สิบนาที…)

ค่ายที่ว่าคือค่าย YWC หรือเอาเต็มๆ คือ Young Webmaster Camp ครับ ชื่อไทยก็มีนะ คือค่าย “เจาะลึกวิชาชีพเว็บมาสเตอร์”  ก็คือเป็นค่ายที่ให้นิสิตนักศึกษาลงไปจับงานสายเว็บในเวลา 4 วัน ปีนี้จัดเป็นครั้งที่ 12 แล้ว ครั้งนี้จัดที่คณะ IT ของ KMITL โดยที่วิทยากรของค่ายก็เต็มไปด้วยคนที่เรารู้จักบนเน็ต หรือคนที่เราไม่รู้ชื่อ แต่ใช้ผลงานเขาอยู่ทุกวัน เรียกได้ว่าเซเลบเยอะมาก lol

ในค่ายนี้เขาจะแบ่งคนที่มาสมัครเป็นเป็น 4 สาขาครับ: Content, Marketing, Programming แล้วก็ Design ตามสายงานทางเว็บที่มีทำกันจริงๆ แบบถ้าเอามารวมกันครบก็เรียกเทพเจ้ามังกรประกอบทีมกันก็ทำโปรเจกต์ขึ้นมาได้เลยอะไรงี้ ถ้าสนใจรายละเอียดของค่ายเพิ่มเติม ก็ดูต่อได้ที่ ywc.in.th โลดด

เอาล่ะ หมดช่วงเกริ่น (ฮา)

ปีนี้มันจะอะไรเยอะแยะ

โพสแรกหลังอพยพย้ายถิ่นฐานมาจาก exteen

สมัคร wordpress ไว้นานแล้วครับ กะจะเอาไว้เขียนอะไรที่อยากจะเขียน เล่านู่นบ่นนี่ ฯลฯ เปลี่ยนแนวจากตอนเล่น exteen ที่ใช้ยังกะ flickr จะลงรูปเป็นเซ็ททีนี่ลำบากมาก (ก็ใครเค้าใช้ให้ลงรูปใน rich text ล่ะ…) มาลงที่นี่ก็คงจะเน้นเขียนเป็นหลัก

แต่ปัญหาปัญหาก็คือ… จะมีเวลาเขียนมั้ย?

ไม่. นี่พูดเลย. orz (เอ่อ ถ้าไม่มีเวลาเขียน แล้วโพสนี้มันมาจากไหน…)

แหม่ ไหนๆ ก็พอจะว่างมาเขียน แล้วนี่ก็ช่วงปีใหม่ละ
ผมว่าเป็นเวลาดีที่คนเราจะได้บ่น(?)ทุกอย่างในรอบปีที่ผ่านมานะครับ

งั้นจัดไป